สำหรับนักสะสมตะเกียง Coleman เมื่อเห็นแบรนด์ Pyrex จะรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี เนื่องเพราะปัจจุบันนี้ ก็ยังคงพบเห็นอยู่เสมอ แต่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าโป๊ะ Pyrex มีที่มาอย่างไร ก็ถือโอกาสนี้เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสู่กันฟัง ท่านที่ทราบหรือขี้เกียจอ่าน ข้ามไปได้เลยครับ
Otto Schott นักเคมี ชาวเยอรมัน
โป๊ะตะเกียง Aida และ Petromax จะมีโลโก้ของบริษัท ชอทท์ เอจี ปรากฏอยู่
25 ปี ต่อมา ( ปี 1912 ) ยูจีน ซัลลิแวน (Eugene Sullivan) ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยของบริษัท คอร์นิง ( Corning - USA. ) ได้พัฒนาแก้วต่อจาก Schott และได้พัฒนาองค์ประกอบของแก้วแบบใหม่ ซึ่งมีส่วนผสมของตะกั่ว และมีความเหนียวแน่นมากขึ้น โดยมีจุดประสงค์ที่จะใช้กับตะเกียง และแบตเตอรี่ และเรียกแก้วชนิดนี้ว่า “ Nonex “ ซึ่งสามารถใช้งานได้ดี
ภาพซ้าย บริษัท Corning Limited , ภาพขวา - Jessie Littleton และภรรยา Bessie Littleton
ตัวอย่างโปสเตอร์ที่ Pyrex ใช้โฆษณาในสมัยนั้น
และนี่คือจุดกำเนิดของการนำแก้ว Nonex ซึ่งต่อมาได้ถูกตั้งชื่อในแบรนด์ Pyrex ซึ่งต้องการให้คล้องจองกับคำว่า Nonex นั่นเอง และโรงงาน Pyrex USA. จึงถือกำเนิดขึ้น โดยมีจานพายที่ใช้ในเตาอบ เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ถูกทำขึ้น ต่อมา Brand Pyrex เป็นที่นิยมอย่างมาก
คนงานในโรงงาน Pyrex
7 ปี หลังจากนั้น ( ปี 1922 ) Pyrex ได้สร้างโรงงานขึ้นใน Bagneaux-sur-Loing (เขตปารีส ประเทศฝรั่งเศษ ) และ ได้สร้างและพัฒนาเครื่องเป่าแก้วและปรับปรุงคุณสมบัติของแก้ว Nonex ได้สำเร็จ พวกเขาเรียกแก้วชนิดนี้ว่า borosilicate ซึ่งสามารถทำให้แก้วชนิดนี้มีรูปทรงตามที่ต้องการได้มากขึ้น ทนความร้อน และแก้วชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงในห้อง Lab ทำให้โป๊ะของ Schott และ Duran ค่อยๆ ลดความนิยมลงไปในที่สุด
ในช่วงประมาณปี 1930 Coleman ได้เลือกให้ Pyrex เป็นผู้ทำโป๊ะตะเกียงเพื่อจำหน่ายในหลายรุ่น อาจเรียกได้ว่าเกือบจะทุกรุ่น และโป๊ะตะเกียงเหล่านี้เรายังคงพบเห็นได้จนถึงทุกวันนี้
ไม่มีใครตอบได้ว่า โป๊ะตะเกียงที่ท่านสะสมในตะเกียงสุดรัก มันผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานเท่าไหร่ แต่นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า Pyrex เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับ Coleman มาช้านาน มันรับใช้ และให้ความสุขให้กับบรรดานักสะสมตะเกียงทั่วโลกมากว่า 80 ปี มาจนทุกวันนี้ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องเล่าของโป๊ะตะเกียงยี่ห้อ Pyrex ครับ.
รวบรวม / เรียบเรียง โดย www.colemanpartsthailand.com
14 มีนาคม 2563